เพิ่งกลับมาจากเมืองจีนเมื่อ 2-3 วันก่อน กำลังคิดว่าจะเขียนเล่าประสบการณ์ที่ได้ไปสัมผัสรถไฟฟ้าความเร็วสูงครั้งแรกในชีวิตที่เซี่ยงไฮ้ซะหน่อย แต่ยังไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็มาเห็นข่าวนี้ของไทยรัฐ เลยอยากเขียนเรื่องส้วมขึ้นมาในบัดดล
---------------------------
ข่าวจากไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/content/528981
(ใครขี้เกียจคลิกเข้าไปอ่าน เราก็ใจดี ก๊อปมาแปะให้ซะเลย)
ชวนนั่งยอง ๆ สุขา จะไม่เคล็ดขัดยอก
ผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยากล่าววิจารณ์ว่า การให้เด็กเล็ก ๆ นั่งถ่ายบนกระโถน เป็นเรื่องไม่เหมาะสมโดยสิ้นเชิง ส่วนผู้ใหญ่นั้นก็ควรจะนั่งยอง ๆ ในการถ่ายทุกข์ประจำวัน
นักวิจัยกิวเลีย เอนเดอร์ส ผู้กำลังศึกษาวิชานี้อยู่ในเยอรมัน อ้างว่าผู้ใหญ่ควรจะนั่งยอง ๆ มากกว่าการนั่งแปะ ด้วยเหตุว่า การนั่งยอง ๆ จะช่วยลดการเคล็ดขัดยอกข้างหลังลงได้
นักจุลชีววิทยาสตรีได้ยกตัวอย่างให้เห็นว่า คนทั่วโลกตั้ง 1.2 พันล้านคน ล้วนแต่นั่งยอง ๆ โดยไม่เคยต้องเดือดร้อนกับโรคถุงโป่งพองในลำไส้เลย ที่สำคัญเมื่อยามจะเข้าห้องน้ำ ควรจะมองหาที่ปลอดภัยจากพวกสกปรกวิตถารที่อาจจะทำให้การขับถ่ายต้องเสีย จังหวะจะโคนไป
---------------------------
ก่อนไปเมืองจีน คุยกับน้องที่ทำงานคนหนึ่งถึงเรื่องห้องสุขาที่นั่น น้องเขาเคยได้ยินคนร่ำลือกันมากถึงความ "อี๋" แต่ยังไม่เคยเห็นของจริงซักที ก็คิดไว้ในใจว่า ไปถึงแล้วจะถ่ายรูปมาฝากน้องเขาสักหน่อย แต่เอาเข้าจริงถ่ายมาได้แค่ 3 รูป แถมไม่ชัดอีกต่างหาก
ส้วมเมืองจีนที่ไปเจอมา ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดไว้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเราไปเมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้กระมัง ก็เลยไม่ได้สัมผัสประสบการณ์ “อี๋” อย่างที่เขาเม้าท์กัน
ในสนามบิน ห้างสรรพสินค้า และสถานีรถไฟที่เราได้แวะไป ก็เป็นห้องสุขาแบบสากลคือแบบชักโครกปกติ แล้วก็มีบริการกระดาษชำระให้อย่างดี มีแม่บ้านทำความสะอาดดูแลอยู่ตลอดเวลา (อันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะไม่แตกต่างจากที่เห็นทั่ว ๆ ไป)
แถมดีกว่าห้องน้ำบ้านเราบางแห่งด้วยนะ เพราะมีการต่อแถวเข้าคิวกัน ไม่ยื้อแย่งกันอย่างที่เป็นข่าว
ตอนแวะที่บริษัทกับโรงงานชานเมือง ได้เจอส้วมแบบบ้าน ๆ ที่คล้ายกับที่มีใช้ตามชนบทบ้านเรา ต่างกันนิดเดียวตรงที่ของเขามีที่กั้นกันสะเก็ดกระเด็น (^_^) แล้วที่กดน้ำก็ใช้เท้าเหยียบปุ่มแบน ๆ น้ำจะไหลออกมาเหมือนน้ำชักโครก (จริง ๆ น่าจะเรียกเหยียบโครกนะ เพราะเหยียบแล้วน้ำก็โครกออกมา ฮ่า ๆ)
ส่วนแบบนี้ บ้านเราไม่มี (ถ่ายมาให้ดูแบบไม่ชัด เพราะไม่ได้ใส่แว่น กดมั่วนึกว่าชัด แหะ ๆ ขออภัย) นั่งปล่อยของเสียลงไปในช่องนั้นแหละ แล้วของที่ปล่อยออกจากตัวแล้วก็จะลงไปอยู่ในช่องข้างล่าง ที่จะไหลไปตามทาง ใครอยู่ห้องข้าง ๆ ก็จะได้เห็นของที่เราปล่อยไปด้วย
ที่สำคัญ ห้องแบบนี้ไม่มีที่กดปุ่มน้ำอ้ะ ไม่มีอ่างน้ำกับขันให้ตักราดด้วยซิ่ ก็ไม่รู้ว่าเขาทำความสะอาดยังไง เข้าใจว่า ถึงเวลาคงมีแม่บ้านเอาน้ำมาราดมั้ง อึ๋ย
อันนี้ไปก๊อปรูปจากเน็ตมาให้ดูชัด ๆ
แต่ก็เถอะ ใครจะว่าส้วมเมืองจีนเลวร้ายยังไง อีกใจเราว่า ก็ยังดีกว่าตอนไปอินเดียนะ อันนั้นระหว่างทางไม่มีส้วมเลย ต้องแวะข้างทางตลอด ยิ่งไม่สะดวกสำหรับผู้หญิง โดยเฉพาะหากไม่มีผ้าถุงไปคลุม เคยไปถ่ายเบาที่นั่น แล้วเจอคนแขกนั่งปล่อยหนักคุยกัน เลยเข้าใจที่มาของคำว่า "ขี้คุย" ...ขี้ไปคุยไป ...มันใช่หราาา ^_^
ด้วยความที่เราเป็นคนเข้าห้องน้ำบ่อย
อั้นนานไม่ค่อยได้ สุขาจึงเป็นสิ่งจำเป็นของชีวิต ดังนั้น
หากมีโอกาสเมื่อไร เห็นใครจะสร้างสุขา เราจะร่วมทำบุญด้วย หวังให้เป็นที่ "สุขา" สำหรับคนที่ต้องการ "ปลดทุกข์"...^^
จบประสบการณ์เรื่องส้วม เพราะตอนนี้เริ่มอยากเข้าส้วมมั่งละ
^^ ...*********************************************************
มีประเด็นเพื่มเติม พอดีนึกออก ก็อยากนำมาแบ่งปันกัน ยาวหน่อยแต่สนุกและจรรโลงใจดีมาก เรื่องอานิสงส์ของการสร้างส้วม โดยหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม (สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักหลวงพ่อจรัญ สั้น ๆ ก็คือ ท่านเป็นพระสุปฏิปันโน คือพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ พระวิปัสสนาจารย์ เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน จ. สิงห์บุรี)
อ่านได้ที่ลิงค์นี้ : http://angelontheground.blogspot.com/2015/10/blog-post_4.html





ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น