การประมูลคลื่น
900 MHz จบลงแล้ว
ภายหลังจากสู้ราคากันอย่างดุเดือด ใช้เวลาประมูลนานถึง 4 วัน
โดยบริษัท
แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด (ภายใต้กลุ่มบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด) ชนะการประมูลใบอนุญาตชุดที่
1 คลื่น 895-905 MHz คู่กับ คลื่น 940-950 MHz (10 MHz) มูลค่าการประมูล 75,654
ล้านบาท
และบริษัท
ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น ชนะการประมูลในชุดที่ 2 คลื่น 905-915 MHz คู่กับ คลื่น 950-960 MHz มูลค่าการประมูล 76,298
ล้านบาท รวมมูลค่าการประมูล 4 จี ทั้งสิ้น 151,952
ล้านบาท
ในเรื่องนี้อาจารย์
ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล ได้โพสต์ไว้ในทวิตเตอร์ส่วนตัว ดังนี้
-
ผลการประมูล 4G/900Mhz. ที่ยอด 151,952
ล้านบาท เป็นฝีมือของ กสทช.ในการวางระบบประมูลเอาเงินเข้ารัฐ
จากนี้ไปจะเป็นฝีมือบริหารของ True & Jasmine
-
แม้ผลประมูล 900Mhz. เป็นเงินสูงมากและถูกกสทช.คุมค่าบริการ
การบริหารการตลาดการทำประโยชน์จาก 4G ให้มีกำไรจะเป็นฝีมือของ
True และ Jasmine โดยแท้
-
หัวใจของการทำให้ไม่ขาดทุน/พอมีกำไรบ้างจากการใช้
4G ด้วยต้นทุนค่าประมูลคลื่นที่สูง คือการสร้างมูลค่าเพิ่มนอกเหนือจากค่าบริการใช้เสียงโทรศัพท์
-
รอดูว่า True และ Jasmine จะมีแผนการบริหาร 4G/900 อย่างไรในด้านการสร้างมูลค่าเพิ่ม
เพราะจะเป็นกรณีศึกษาอย่างดีสำหรับ Harvard Business School
-
TrueMove
มี TrueVisions ในเครือธุรกิจ มีโอกาสดีมาก ๆ ที่จะพัฒนา
contents เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ ดูอย่าง Netflix,
Amazon, Apple TV
-
หาก True และ Jasmine สร้างมูลค่าเพิ่ม 4G ตามทาง Netflix, Hulu,
Amazon, Sling, Roku, Chromecast ได้
จะเป็นหน้าใหม่ของการสื่อสารโทรคมนาคมของไทย และจะเป็นจุดจบของโทรทัศน์ไทยแบบแผนดั้งเดิม
-
ผมคุยเรื่องเพิ่มมูลค่า 4G สำหรับ
True & Jasmine เพื่อให้คนหนุ่มสาวที่กำลังสร้างสรรค์ contents
เนื้อหางานสื่อสารมวลชนและโทรคมนาคมได้เห็นโอกาส
ที่มา: เนื้อหาจากข่าวและทวิตเตอร์อาจารย์ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น